ผู้นำทัพหงส์บินไปสู่ดวงดาว
"สตีเว่น เจอร์ราร์ด" หรือที่แฟนบอลรู้จักในนาม "สตีวี่ จี" นักเตะรูปหล่อจากเมืองผู้ดีคนนี้ เป็นกับตันทีม และสัญลักษณ์อันทรงพลังของกองทัพนักเตะแห่งสหราชอาณาจักรที่พาทีมเข้าประชันฝีแข้งในศึกใหญ่มานับไม่ถ้วนไม่ว่าจะเป็นศึกยูโร หรือฟุตบอลโลก รวมทั้งบทบาทมิดฟิลด์ฟุตบอลโลก รวมทั้งบทบาทมิดผลด์ตัวเก๋า ดาวยิงเจ้าของเสื้อหมายเลข 8 ของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลที่ทักษะทางบอลนั้นเด่นทั้งเกมรุกเกมรับ อักทั้งหลายประตูมหัศจรรย์ที่เป็นที่กล่าวขานของแฟนฟุตบอล "เจอร์ราร์ด" จึงเป็นอีกหนึ่งนักเตะขวัญใจมหาชน แถมยังรูปหล่อแบบสาวไหนเห็นเป็นต้องกรี้ดดด จึงทำให้มีชื่อเสียงกระฉ่อนวงการฟุตบอล
"สตีเว่น เจอร์ราร์ด" หรือที่แฟนบอลรู้จักในนาม "สตีวี่ จี" นักเตะรูปหล่อจากเมืองผู้ดีคนนี้ เป็นกับตันทีม และสัญลักษณ์อันทรงพลังของกองทัพนักเตะแห่งสหราชอาณาจักรที่พาทีมเข้าประชันฝีแข้งในศึกใหญ่มานับไม่ถ้วนไม่ว่าจะเป็นศึกยูโร หรือฟุตบอลโลก รวมทั้งบทบาทมิดฟิลด์ฟุตบอลโลก รวมทั้งบทบาทมิดผลด์ตัวเก๋า ดาวยิงเจ้าของเสื้อหมายเลข 8 ของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลที่ทักษะทางบอลนั้นเด่นทั้งเกมรุกเกมรับ อักทั้งหลายประตูมหัศจรรย์ที่เป็นที่กล่าวขานของแฟนฟุตบอล "เจอร์ราร์ด" จึงเป็นอีกหนึ่งนักเตะขวัญใจมหาชน แถมยังรูปหล่อแบบสาวไหนเห็นเป็นต้องกรี้ดดด จึงทำให้มีชื่อเสียงกระฉ่อนวงการฟุตบอล
![]() |
My Memory Steven Gerrard (Vol.1) |
My Memory Steven Gerrard (Vol.1)
สตีเว่น เจอร์ราร์ด มีชื่อเต็มว่า Steven George Gerrard เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 1980 ที่เมืองวิสตัน เมอร์ซี่ย์ไซด์ ลิเวอร์พูล เจ้าหนูเจอร์ราร์ด ผู้ที่มีความสามารถทางกีฬาตั้งแต่เด็ก เข้าสู่เส้นทางลูกหนังกีฬาสุดฮิตของเกาะอังกฤษโดยการลงเล่นให้กับโรงเรียนคาร์ดินัล ฮีแมน คาธอลิก ไฮจ์สคูล ในเวสต์ดาร์บี้ เมืองลิเวอร์พูลที่เขาศึกษาอยู่ และในวัย 9 ขวบ เจ้าหนูเจอร์ราร์ด จรงจังกับการเล่นฟุตบอล และอยากจะเป็นนักเตะอาชีพในอนาคต จึงตัดสินใจสมัครเรียนโณงเรียนฟุตบอลลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นสถาบันที่ปั้นนักเตะชื่อดังอย่าง สตีฟแม็คมานามาน และ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ให้โด่งดังมาแล้ว และเจ้าหนูเจอร์ราร์ดเป็นแฟนบอลของสโมสรนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แลยทีเดียว หลังจากนั้นด้วยฝีแข้งที่โดดเด่นเกินเพื่นๆ จึงได้ลงสนามจริงในฐานะนักฟุตบอลเยาวชนของสโฒสรตั้งแต่นั้นในตำแหน่งมิดฟิลด์ทางด้านขวา และมิดฟิลด์ตัวกลาง ถือว่าเป็นนักเตะเต็มตัวภายใต้ชายคาหงส์แดงตั้งแต่ฟี ค.ศ. 1989 และ เจอร์ราร์ดก็สร้างผลงานให้ทีมมาตลอดและมีการพัฒนาที่ด้าวหน้าในช่วงเวลาอันนั้น เรียกได้ว่าฉายแววเจิดจรัสมาตั้งแต่ยังเด็กๆ เลยทีเดียว และเจ้าหนูเจอร์ราร์ดก็เกือบจะติดทีมชาติเยาวชนตั้งแต่เด็กแต่ไปพลาดในการคัดตัวรอบสุดท้ายไปเสียก่อน แต่เจอร์ราร์ดก็ฝึกทักษะ และพัฒนาตัวเองในฐานะนักเตะของลิเวอร์พูลมาตลอด
หลังจากที่ฝึกซ้อมอย่างหนักอยู่หลายปี เจอร์ราร์ดก็ได้ลงประเดิมสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลเป็นครั้งแรก ในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1998 โดยถูกเปลี่ยตัวลงสนามไปแทน เวการ์ด เฮกเก้ม ในนัดที่พบกับแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ก่อนจะมาได้ลงสนามเป็นตัวจริงในครั้งแรก ในนัดที่ลิเวอรพูล พบกับ เซลต้าบีโก้ ในศึกยูฟ่า คัพและแม้ว่าในนัดนั้นลิเวอร์พูลจะไม่ได้รับชัยชนะ แต่เจอร์ราร์ดได้โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นทำให้ได้รับการยกย่องในฝีเท้า มีอนาคตในทีมอย่างแน่นอน ทำให้เขาแจ้งเกิดในวงการฟุตบอลอาชีพอย่างเต็ฒตัว โดยสิ้นสุดฤดูกาลในปี ค.ศ. 1998 เขาลงเล่นให้ทีม 12 นัด ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นตัวสำรอง และเจอร์ราร์ดมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดยูโรปี ค.ศ. 2000 แต่้เขาก็ได้แต่นั่งดูเกมในม้านั่งสำรองเท่านั้น
และฤดูกาล 2000-2001 เจอร์ราร์ดก็ก้าวเข้าสู่ กำลังหลักของทีมด้วยการที่เป็นนักเตะที่มีความสามารถทั้งการช่วยเกมรับ และการเติมเกมรุก แถมยังยิงไกลได้แม่นยำทำให้เจอร์ราร์ดค่อยๆ เปลี่ยนบทบาทของตัวเองมาเป็นกองกลางเชิงรุก และทำประตูให้ทีมหลายประตูอย่างประตูที่เป็นตำนานให้แฟนหงส์ต้องกล่าวถึงมาทุกวันนี้ ในนัดที่พบกับแมนยูฤดูกาล
2000-2001 ที่ได้รับโหวตให้เป็นประตูที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ชิพ และได้รับตำแหน่ง ดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ และพาทีมหงส์แดงคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ ทั้งยูฟ่าคับ, เอฟเอคัพ และลีกคัพ โดยสามารถทำประตูในรอบชิงชนะเลิศของยูฟ่า คัพ ซึ่งลิเวอร์พูล เจอกับ อลาเบส และเจอร์ราร์ดก็ทำประตูให้ประทับใจแฟนหงส์ให้ได้เฮกันอีก
เช่นเคย ในฤดูกาลนี้เจอร์ราร์ดได้ลงเล่นในเกมส์ลีก 33 นัดยิงได้ถึง 7 ประตู ทำให้ได้รับรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี ( Young Player of the Year Award ) ในปีเดียวกันนี้ด้วยความโดดเด่นทำให้เดวิน คีแกน ผู้คัดเลือกนักเตะทีมชาติ เจอร์ราร์ดจึงมีโอกาสได้รับใช้ชาติในฐานะทีมชาติอังกฤษในศึกฟุตบอลโลก ปี ค.ศ. 2002 ที่เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ โดยในรอบคัดเลือกฟุตบอลโซนยุโรป เจอร์ราร์ดก็พิสูจน์ฝีมือในเวทีโลก คือการทำประตูพาทีมให้ชนะทัพนักเตะเยอรมันด้วยสกอร์ 5-1 ด้วยลูกยิงเหนือชั้นที่ซัลโวจากระยะ 25 หลา จนทำให้ทีมคว้าแชมป์กลุ่มมาครองได้ และผ่านไปเล่นรอบสุดท้ายที่เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เป็นนัดที่แฟนบอลได้จดจำ และได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดนัดหนึ่งในระวัติศาสตร์ของทีมชาติอังกฤษ
แต่ก่อนที่จะได้ไปลุยที่เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เจอร์ราร์ดได้รับบาดเจ็บ จนต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โคนขาทำให้ต้องหลุดออกจากรายชื่อนักเตะทีมชาติไปอย่างน่าเสียดาย
อ้างอิงข้อมูลจากนิตยสาร Sexiest Sportsman
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น